ข้อกำหนดในการเดินทาง

ค่าธรรมเนียมการพัฒนาอย่างยั่งยืน

รัฐบาลราชอาณาจักรภูฏานได้กำหนดเก็บค่าธรรมเนียมการพัฒนาอย่างยั่งยืน (Sustainable Development Fee) ในอัตรา 200 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคนต่อวัน ซึ่งต้องชำระก่อนการออกวีซ่า ค่าธรรมเนียมนี้จะถูกนำเข้าสู่กองทุนของรัฐบาลเพื่อใช้ในการพัฒนาภูฏาน อนุรักษ์มรดกทางธรรมชาติและวัฒนธรรม รวมถึงสนับสนุนการศึกษาและการรักษาพยาบาลฟรีแก่ประชาชนชาวภูฏานทุกคน

การยกเว้นและค่าธรรมเนียมแบบผ่อนปรน

ขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนดไว้ในกฎระเบียบ หน่วยงานที่มีอำนาจอาจอนุญาตให้มีการยกเว้นหรือกำหนดอัตราค่าธรรมเนียมแบบผ่อนปรนสำหรับค่าธรรมเนียมการพัฒนาอย่างยั่งยืน ดังนี้:

• นักท่องเที่ยวแบบไปเช้าเย็นกลับ (day tourists) ที่ไม่เดินทางเกินจุดที่กำหนดจุดแรก จะได้รับการยกเว้น

• เด็กอายุ ไม่เกิน 5 ปี ได้รับการยกเว้น

• เด็กอายุ 6 ถึง 12 ปี ได้รับอัตราค่าธรรมเนียมแบบผ่อนปรน 50%

• การยกเว้นอื่น ๆ หรืออัตราค่าธรรมเนียมอื่น ๆ ที่เห็นว่าเหมาะสม

ค่าธรรมเนียมวีซ่า และเอกสารที่ต้องใช้

• จำเป็นต้องใช้สำเนาหนังสือเดินทาง โดยหนังสือเดินทางต้องมีอายุใช้งานไม่น้อยกว่า 6 เดือน นับจากวันที่จะเดินทางออกจากภูฏาน

• ประกันการเดินทางที่ครอบคลุมตลอดระยะเวลาทริป

• รูปถ่ายหน้าตรงขนาดหนังสือเดินทางล่าสุด

• ค่าธรรมเนียมวีซ่า 40 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อคน (ไม่สามารถขอคืนเงินได้)
  แม้ว่ากระบวนการออกวีซ่ามักใช้เวลาไม่นาน แต่ในบางกรณีอาจใช้เวลาถึง 5 วันทำการ

หมายเหตุ: อาจมีค่าธรรมเนียมเข้าสถานที่ เช่น วัด ป้อมปราการ หรืออุทยาน ตามนโยบายของรัฐบาล

ข้อมูลทั่วไปเกี่ยวกับภูฏาน

การเดินทางทางอากาศ

ประเทศภูฏานมีสนามบินนานาชาติเพียงแห่งเดียวที่ให้บริการแก่นักท่องเที่ยว โดยสนามบินนานาชาติแห่งนี้ตั้งอยู่ที่เมืองพาโร (Paro) ซึ่งอยู่สูงจากระดับน้ำทะเลถึง 7,300 ฟุต และล้อมรอบด้วยภูเขาและเนินเขาที่สูงถึง 16,000 ฟุต

มีเที่ยวบินตรงจากหลายจุดหมายปลายทาง ได้แก่ กรุงเทพฯ เดลี โกลกาตา บักโดกรา พุทธคยา ธากา กาฐมาณฑุ กูวาฮาติ สิงคโปร์ และมุมไบ โดยเส้นทางบินระหว่างพาโรและกาฐมาณฑุถือเป็นหนึ่งในเส้นทางที่น่าตื่นเต้นที่สุด เพราะเครื่องบินจะบินผ่านยอดเขาที่สูงที่สุด 4 ใน 5 แห่งของโลก ในวันที่อากาศดี ผู้โดยสารจะสามารถชมวิวอันงดงามของยอดเขาเอเวอเรสต์ โลตเซ มากาลู และคันเช็งจุงกาได้อย่างชัดเจน

นอกจากนี้ยังมีสนามบินภายในประเทศที่เมืองยงฟูลา (Yonphula) ทางตะวันออกของภูฏาน, เมืองบุมถัง (Bumthang) ตอนกลางของภูฏาน และเมืองเกเลปู (Gelephu) ทางตอนใต้ตอนกลางของภูฏาน

สายการบินที่ให้บริการมายังภูฏานมี 2 แห่ง ได้แก่ Drukair และ Bhutan Airlines.

การเดินทางทางบก

บริเวณชายแดนทางบกที่เปิดให้นักท่องเที่ยวเดินทางเข้าสู่ภูฏานมีเพียง 3 จุดเท่านั้น ได้แก่ Phuentsholing, Gelephu และ Samdrup Jongkhar

• เมือง Phuentsholing ตั้งอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของภูฏาน ห่างจากสนามบินบักโดกรา (Bagdogra) ของอินเดียประมาณ 170 กิโลเมตร เมื่อข้ามชายแดนจากอินเดียมายัง Phuentsholing แล้ว คุณจะเริ่มต้นการเดินทางสู่เมืองหลวง Thimphu โดยใช้เวลาประมาณ 6 ชั่วโมง กับระยะทาง 170 กิโลเมตร

• Gelephu ตั้งอยู่ทางตอนใต้ตอนกลางของภูฏาน เป็นอีกหนึ่งจุดผ่านแดนที่สามารถเดินทางเข้าภูฏานได้ Gelephu อยู่ห่างจาก Thimphu ประมาณ 250 กิโลเมตร เส้นทางจะพาคุณผ่านพื้นที่กึ่งร้อนชื้นของภูฏาน จากนั้นเข้าสู่เขตภูเขาสูง และเดินทางต่อจนถึงเมืองหลวง Thimphu โดยใช้เวลาประมาณ 10 ชั่วโมง และต้องเดินทางผ่าน 3 เขตการปกครอง

• Samdrup Jongkhar ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของภูฏาน มีพรมแดนติดกับเขต Darranga รัฐอัสสัม ประเทศอินเดีย โดยอยู่ห่างจากเมือง Guwahati เมืองหลวงของรัฐอัสสัมประมาณ 150 กิโลเมตร ใช้เวลาเดินทางจาก Guwahati ประมาณ 3 ชั่วโมง

นักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าภูฏานผ่านทาง Samdrup Jongkhar จะเดินทางต่อไปยังเมือง Trashigang และจากที่นั่นจะใช้เส้นทางสายหลัก (lateral route) ผ่านเมือง Mongar, Bumthang, Trongsa, Wangdue Phodrang และสุดท้ายเข้าสู่เมืองหลวง Thimphu โดยระยะทางรวมประมาณ 700 กิโลเมตร และใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 3 วัน จึงจะถึงจุดหมาย

ฤดูกาล

ภูฏานมีฤดูกาลที่เหมาะสำหรับทุกคน ราชอาณาจักรแห่งนี้ทอดยาวผ่านเขตภูมิอากาศ 3 แบบ ได้แก่:

• ป่ากึ่งร้อนชื้น ทางตอนใต้

• พื้นที่ระดับความสูงปานกลาง (2,000–2,500 เมตร) ทางตอนกลาง

• เขตเทือกเขาหิมาลัยสูง ทางตอนเหนือ

อุณหภูมิในหุบเขาตอนกลางของภูฏานโดยทั่วไปไม่เกิน 30°C ในฤดูร้อน และประมาณ 15°C ในช่วงกลางวันของฤดูหนาว

ฤดูใบไม้ผลิ

ฤดูใบไม้ผลิเปรียบเสมือนสวรรค์ของนักพฤกษศาสตร์ เมื่อดอกโรโดเดนดรอน อาซาเลีย และดอกไม้ป่านานาชนิด รวมถึงดอกเอเดลไวส์ เบ่งบานเต็มทุ่งราวกับพรมธรรมชาติ ดอกแพร์และดอกแอปเปิลแต่งแต้มสีชมพูและขาวให้กับหุบเขา สร้างความรู้สึกของความสดใสและน่าพิศวง

ฤดูร้อน

ฤดูแห่งความอุดมสมบูรณ์ ดอกไม้นานาชนิดเบ่งบาน หุบเขาเขียวขจี ต้นวิลโลว์โน้มกิ่งอ่อนโยนลงริมแม่น้ำหลายสาย ขณะที่โคนต้นสนเปล่งประกายท่ามกลางแสงแดด เต็มไปด้วยยางไม้จนดูพร้อมจะร่วงหล่นสู่พื้น

ฤดูใบไม้ร่วง

แสงทองสาดส่องทั่วภูมิประเทศ นาข้าวสุกเหลืองทองอร่ามใต้ท้องฟ้าสีฟ้าสดใส ดอกคอสมอสสีชมพูและขาวเบ่งบานประดับทั่วชนบทอย่างสดใส

ฤดูหนาว

ฤดูหนาวก็มีเสน่ห์ในแบบของมันเอง กลางวันอบอุ่นไปด้วยแสงแดด ส่วนกลางคืนอากาศเย็นจัด หมอกเมฆลอยปกคลุมยอดเขาอย่างอ้อยอิ่ง ราวกับกำลังรอชีวิตใหม่พัดพามาเปลี่ยนแปลงทิวทัศน์ให้มีชีวิตชีวาอีกครั้ง

ภาษา

คุณสามารถสื่อสารได้อย่างสะดวกสบายด้วยภาษาอังกฤษ เนื่องจากภาษาอังกฤษเป็นภาษาที่ใช้ในการเรียนการสอนในโรงเรียนของภูฏาน ภาษา ดซองคา (Dzongkha) เป็นภาษาประจำชาติและมีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ชาวภูฏานส่วนใหญ่มักพูดได้หลายภาษา รวมถึงดซองคา ฮินดี และเนปาลี

เด็ก ๆ จำนวนมาก แม้กระทั่งในพื้นที่ชนบท มักจะเดินเข้ามาทักทายผู้มาเยือนด้วยรอยยิ้ม พร้อมโบกมือและพูดว่า “Hello” หรือ “Good morning”

ชาวภูฏานมักรู้สึกดีใจเป็นพิเศษเมื่อพบกับนักท่องเที่ยวที่พยายามพูดภาษาของพวกเขา ถึงแม้ว่ามัคคุเทศก์ที่ได้รับอนุญาตทุกคนจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้ แต่ผู้มาเยือนก็สามารถขอใช้บริการมัคคุเทศก์ที่พูดภาษาอื่น ๆ ได้ เช่น ภาษาเยอรมัน ภาษาญี่ปุ่น ภาษาสเปน ฯลฯ

การเดินป่าและการผจญภัย (TREKKING AND ADVENTURE)

การเดินป่าในภูฏานเป็นประสบการณ์ที่ไม่เหมือนใคร เส้นทางเดินป่ามีหลากหลาย ตั้งแต่เส้นทางแบบง่าย ๆ ใช้เวลา 3 วันจากทิมพูไปพาโร (หรือกลับกัน) ไปจนถึงเส้นทางระดับตำนานอย่าง Snowman’s Trek ที่ใช้เวลา 25 วัน เหมาะสำหรับนักเดินป่ามืออาชีพ เส้นทางนี้จะพาผ่านสถานที่ที่สวยงามที่สุดในประเทศ และได้รับการขนานนามว่าเป็นเส้นทางเดินป่าที่ท้าทายที่สุดในโลก โดยผ่านด่านเขากว่า 12 แห่ง ทุกแห่งสูงกว่า 4,500 เมตร

เกือบทุกเส้นทางเดินป่าในภูฏานจะผสมผสานระหว่างการค้นพบธรรมชาติและความเข้าใจในวิถีชีวิตอันละเอียดอ่อนและมีเอกลักษณ์ของชาวภูฏาน นักเดินป่าจะได้ผ่านอารามโบราณ ป่าเขาลึก และหมู่บ้านห่างไกล ทุ่งหญ้าเลี้ยงสัตว์ ทุ่งดอกไม้ ผีเสื้อ และสัตว์กินหญ้า เช่น แกะสีน้ำเงิน ทาคิน (สัตว์ประจำชาติ) และนกป่าหลากหลายชนิด

เส้นทางเดินป่าของภูฏานยังมีชื่อเสียงเรื่องทิวทัศน์งดงามของเทือกเขาหิมาลัย ที่จะสร้างความประทับใจและเป็นจุดให้ผู้เดินป่าได้หยุดชื่นชมและไตร่ตรองระหว่างทาง

เคล็ดลับการเดินทาง (TRAVEL TIPS)

วีซ่า (Visa)

ยกเว้นนักท่องเที่ยวจากอินเดีย บังกลาเทศ และมัลดีฟส์ นักท่องเที่ยวจากประเทศอื่นต้องขอวีซ่า ซึ่งจะออกให้เฉพาะหลังจากได้ทำการจองผ่านบริษัททัวร์ภูฏานที่ได้รับอนุญาตแล้วเท่านั้น

สกุลเงิน (Currency)

สกุลเงิน “งูลตรุม” (Ngultrum หรือ Nu) มีค่าเท่ากับรูปีอินเดีย และ 1 ดอลลาร์สหรัฐประมาณ 82 งูลตรุม สกุลเงินต่างประเทศสามารถแลกเปลี่ยนได้ที่สนามบินและธนาคาร ตู้ ATM และธนาคารรองรับบัตร Visa และ MasterCard ปัจจุบัน ร้านค้าส่วนใหญ่ในทิมพู พาโร พูนาคา วังดี ทรองซา บุมถัง มงการ์ ตราชิยางเซ และฟุนโชลิงมีเครื่องรูดบัตร (Point-of-Sale)

ที่พัก (Accommodation)

ภูฏานมีที่พักหลากหลาย ตั้งแต่โรงแรมหรูระดับ 5 ดาว ไปจนถึงโรงแรมขนาดเล็กอบอุ่น และโฮมสเตย์ในบ้านแบบดั้งเดิมของชาวภูฏาน นักท่องเที่ยวจะได้รับความอบอุ่นและสะดวกสบาย พร้อมบรรยากาศและการต้อนรับที่ยอดเยี่ยมจากโรงแรม

อาหารการกิน (Dining out)

ร้านอาหารส่วนใหญ่นำเสนออาหารอินเดีย คอนติเนนตัล และจีน รวมถึงอาหารนานาชาติอื่น ๆ อาหารภูฏานมีจำหน่ายในร้านอาหารทั้งหมด เมนูยอดนิยมคือ Ema Datshi ซึ่งเป็นอาหารที่ทำจากชีสและพริก รสเผ็ดร้อนเป็นที่โปรดปรานของคนภูฏานและนักท่องเที่ยว อาหารภูฏานใช้พริกจำนวนมาก ดังนั้นควรสั่งตามระดับความเผ็ดที่คุณทนได้! นอกจากนี้ ยังมีเบียร์และวิสกี้ท้องถิ่น และเครื่องดื่มพื้นเมืองชื่อ Ara ซึ่งกลั่นจากข้าว ข้าวบาร์เลย์ หรือข้าวสาลี เป็นที่นิยมอย่างมาก

การช้อปปิ้ง (Shopping)

ภูฏานมีชื่อเสียงเรื่องสิ่งทอ ผลิตภัณฑ์จากไม้ไผ่และหวาย มีร้านค้าและห้างขายของมากมายที่จำหน่ายผ้าทอมือ งานหัตถกรรม ถังฆ่า (ภาพวาดศักดิ์สิทธิ์) เครื่องประดับ ของโบราณ และสมุนไพรออร์แกนิกที่ชาวภูฏานใช้ในชีวิตประจำวัน

การสื่อสารโทรคมนาคม (Telecommunications)

ภูฏานมีระบบสื่อสารที่ดี เมืองต่าง ๆ แทบทุกแห่งมีบริการโทรคมนาคม อินเทอร์เน็ตคาเฟ่สามารถพบได้ทั่วไป โทรศัพท์มือถือใช้ได้ในแทบทุกพื้นที่ของประเทศ และสามารถซื้อซิมการ์ดได้ที่สนามบินและร้านค้าทั่วไป